วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Disruptive Technology มีอะไรกันบ้าง (Disruptive EP2)

เป็นที่ยอมรับการพยากรณ์ของ McKinsey ประเมินว่า ในปี คศ. 2025 มีธุรกิจที่ใช้ Disruptive Technology จากทั่วโลก

จะสร้างมูลค่าทางการตลาด สูงหลาย Trillion US Dollar มีกูรู 2-3 ท่าน ได้อธิบายไปแล้ว ตามนั้น

ถ้าเช่นนั้น ผมขอลิสท์รายการใหม่ตามแบบที่ผมถนัด และอธิบายใหม่ในมุมมองของผม โดยขอจัดใหม่เป็น 10 กลุ่ม(รายการ) ซึ่งต่อไปจะเป็นกรอบของซีรีย์ Disruptive โดยบางเรื่องก็ไม่ใช่ New Technology แต่อย่างใด

1. 5G Network Provider หรือ Mobile Internet
ผมหมายถึง ผู้ให้บริการโครงข่ายมือถือ เหมารวมผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต และต่อไปอาจมีอินเตอ์เน็ตผ่านดาวเทียมด้วย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต (Internet Access) ของประชากรโลกที่เหลือที่ยังขาดโอกาส

2. AI: Artificial Intelligence หรือ Automation of knowledge work
ผมหมายถึง ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังมากๆ หากนำเข้ามาประยุกต์กับกระบวนการทำงาน ซึ่งปัจจุบันใช้ทั้งแรงงานมนุษย์ เวลา และทรัพยากรต่างๆ จะถูกแทนที่ด้วย Robotic Process Automation (RPA)

3. IoT: Internet of Things อันนี้ตรงกับ McKinsey
ปัจจุบัน IoT เฟื่องฟูมากๆ ในกลุ่มอุปกรณ์ที่เรียกว่า Wearable และถูกประยุกต์ใช้ครอบคลุมเกือบทุกอุตสาหกรรม พร้อมมีแนวโน้มที่เติบโตสูงมาก

4. Advanced robotics อันนี้ ก็ตรงกับ McKinsey
เกิดจาก Pain Point ของมนุษต์ ตั้งแต่การขาดแคลนแรงงาน การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ความต้องการการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ล้วนผลักดันให้เกิดการพัฒนาหุ่นยนต์ ใช้แทนแรงงานมนุษย์

5. Cloud technology อันนี้ ก็ตรงกับ McKinsey
Cloud เกิดขึ้นมานานพร้อมๆกับยุคเริ่มต้นใช้อินเตอร์เน็ต แต่ด้วยการพัฒนา IT ในหลายๆด้าน พร้อมการส่งเสริมด้วยโครงข่าย ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ปัจจุบันมีความเร็วสูงขึ้นเป็นพันเท่าจากอดีต จึงผลักดัน Cloud มีบทบาทสำคัญ และส่งเสริมการทำงาน 4 รายการแรก

ข้อที่ 1 ถึง ข้อที่ 5 เกี่ยวข้องกันทั้งหมด (คือ เทคโนโลยีถูกใช้พร้อมกัน) แต่ในบาง Application อาจไม่มี Robotic หรือไม่มีกลไก mechanics
แต่ Network + AI + IoT + Cloud แทบแยกกันไม่ออกเลย คือถูกประยุกต์ใช้หลายเทคโนโลยีเป็นระบบเดียวกัน

Disruptive มีอีก 5 กลุ่ม ผมขอยกไป Disruptive EP ต่อไป โปรดติดตามได้ที่
Blockdit: www.blockdit.com/worklifewinwin
Blogger: http://worklifewinwin.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น